Skip links
มี CRM อยู่แล้ว จำเป็นต้องมี CDP หรือไม่?

มี CRM อยู่แล้วจำเป็นต้องมี CDP Platforms หรือไม่? คำตอบที่ธุรกิจยุคดิจิทัลควรรู้

ในยุคที่ทุกธุรกิจขับเคลื่อนด้วย “ข้อมูล” มากกว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการ การจัดการและใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างชาญฉลาดกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน M Intelligence ในฐานะ Salesforce Partner ที่ได้รับการรับรอง พร้อมนำเสนอแนวทางใหม่ในการบริหารข้อมูลลูกค้าผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเฉพาะการผสานพลังระหว่าง CRM และ CDP Platforms ที่หลายองค์กรระดับโลกเริ่มหันมาใช้ร่วมกันเพื่อเร่งการเติบโตและสร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบ Personalization

หลายคนอาจตั้งคำถามว่า “ในเมื่อมี CRM แล้ว จะใช้ CDP Platforms ซ้ำซ้อนไปเพื่ออะไร?” คำตอบนั้นไม่ใช่แค่ “จำเป็น” แต่คือ “ขาดไม่ได้” ถ้าคุณต้องการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และขับเคลื่อนการตลาดด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์

CRM คืออะไร และเหมาะกับการใช้งานลักษณะใด?

Customer Relationship Management หรือ CRM คือระบบที่องค์กรใช้เพื่อบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบครบวงจร ตั้งแต่ก่อนปิดการขาย ระหว่างให้บริการ ไปจนถึงการติดตามผลหลังการขาย จุดเด่นหลักของระบบ CRM อยู่ที่ “ข้อมูลเชิงปฏิสัมพันธ์” ซึ่งถูกบันทึกและดูแลโดยทีมงานขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการโทรพูดคุยกับลูกค้า การออกใบเสนอราคา การเปิดเคสบริการ หรือแม้แต่การบันทึกโน้ตจากการประชุมกับลูกค้าแต่ละครั้ง

เครื่องมือ CRM จึงเปรียบเสมือนเครื่องมือสำคัญของทีมขายและทีมบริการ ที่ต้องการมองเห็นความเคลื่อนไหวของลูกค้าแต่ละรายอย่างเป็นระบบ เข้าใจว่าวันนี้ลูกค้าอยู่ในขั้นตอนใดของ Pipeline หรือมีปัญหาค้างอยู่ที่ต้องติดตามใครต่อไป ระบบยังช่วยให้ผู้บริหารสามารถดูภาพรวมของโอกาสการขายในองค์กร วิเคราะห์ประสิทธิภาพทีมงาน และวางแผนการเติบโตในระยะยาวได้อย่างแม่นยำ

ธุรกิจที่มีทีมขายแบบ Consultative Selling หรือมีระบบบริการหลังการขายที่ต้องการเก็บประวัติแบบละเอียดจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการใช้ CRM เพราะระบบนี้ออกแบบมาเพื่อช่วย “จัดการกระบวนการ” ที่เกิดจากการโต้ตอบกับลูกค้าโดยตรง

CDP Platforms คืออะไร? และทำงานอย่างไร?

ในขณะที่ CRM โฟกัสที่การบันทึกข้อมูลจากการโต้ตอบโดยทีมงาน CDP (Customer Data Platform) กลับเน้นการรวบรวมข้อมูลจากพฤติกรรมของลูกค้าแบบอัตโนมัติ — โดยไม่ต้องอาศัยการกรอกข้อมูลด้วยมือ

CDP คือระบบที่รวมข้อมูลลูกค้าจากทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมบนเว็บไซต์ การกดเปิดอีเมล การแชทผ่าน Line OA หรือแม้แต่การซื้อสินค้าที่หน้าร้าน ระบบจะดึงข้อมูลเหล่านี้เข้ามาแบบ Real-time และเชื่อมโยงเข้าด้วยกันในระดับ “บุคคล” เพื่อสร้างโปรไฟล์ลูกค้าแบบ 360 องศา ที่แสดงพฤติกรรม ความสนใจ และความถี่ในการมีปฏิสัมพันธ์

CDP จึงสามารถวิเคราะห์และจำแนกกลุ่มลูกค้า (Segmentation) ได้โดยอัตโนมัติ และส่งข้อมูลไปยังระบบการตลาดเพื่อส่งแคมเปญแบบ Personalization ได้ทันที เช่น การแนะนำสินค้าที่เหมาะกับความสนใจเฉพาะบุคคล หรือการตั้งทริกเกอร์ส่งอีเมลอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้กระทำบางอย่างบนเว็บไซต์

อีกจุดเด่นคือ CDP สามารถเชื่อมต่อกับระบบต่าง ๆ เช่น Marketing Automation, AI Recommendation Engine และ DMP (Data Management Platform) เพื่อขยายขีดความสามารถในการทำการตลาดแบบ Omnichannel อย่างแท้จริง

ธุรกิจที่มีฐานลูกค้าจำนวนมาก มีหลายช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้า และต้องการวิเคราะห์เชิงพฤติกรรมแบบ Realtime จะได้รับประโยชน์มหาศาลจาก CDP เพราะมันช่วยแปลงพฤติกรรมกระจัดกระจายให้กลายเป็น Insight ที่ใช้งานได้ทันที

CRM vs CDP ต่างกันอย่างไร และควรใช้ร่วมกันหรือไม่?

แม้ CRM และ CDP จะมีเป้าหมายเกี่ยวกับ “ข้อมูลลูกค้า” เหมือนกัน แต่ทั้งสองระบบมีบทบาทที่แตกต่างอย่างชัดเจน

  • CRM มุ่งจัดการ “ความสัมพันธ์” กับลูกค้า เน้นข้อมูลจากฝ่ายขายและบริการที่กรอกเอง

  • CDP มุ่งจัดการ “ข้อมูลดิบจากพฤติกรรม” ในทุก Touchpoint ของลูกค้าแบบเรียลไทม์

การมีเพียง CRM จะทำให้คุณเข้าใจลูกค้าในมุมของทีมงานเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าลูกค้าคิดหรือทำอะไรอยู่ตอนนี้ ขณะที่ CDP จะช่วยให้คุณรู้ว่าลูกค้าเพิ่งคลิกอะไรในเว็บ กำลังดูสินค้าตัวไหน หรือเคยเปิดอีเมลแคมเปญล่าสุดหรือไม่ — ข้อมูลที่ CRM ไม่มีทางให้คุณได้

หากคุณใช้ทั้ง CRM และ CDP ควบคู่กัน จะสามารถเชื่อมโยงทั้ง “ความสัมพันธ์ที่ทีมจัดการ” และ “พฤติกรรมจริงของลูกค้า” ได้อย่างครบถ้วน พร้อมนำไปสู่การวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

กรณีตัวอย่าง ใช้ CRM + CDP Platforms แล้วเกิดอะไรขึ้น?

เมื่อธุรกิจนำ CRM และ CDP มาใช้ควบคู่กัน ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่แค่การบริหารลูกค้าได้ดีขึ้น แต่คือการยกระดับ “ประสบการณ์” ของลูกค้า และสร้าง “คุณค่า” ที่ส่งผลต่อการเติบโตระยะยาวขององค์กร ต่อไปนี้คือ 3 ตัวอย่างการใช้งานที่สะท้อนให้เห็นถึงประโยชน์ที่แท้จริงของการผสาน 2 ระบบเข้าด้วยกัน:

1. ธุรกิจค้าปลีก: จากลูกค้าหาย ไปสู่การกลับมาซื้อซ้ำ

ในธุรกิจค้าปลีก การรักษาลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำสำคัญไม่แพ้การหาลูกค้าใหม่ ด้วย CDP ระบบสามารถตรวจจับกลุ่มลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าช่วงโปรโมชันแล้ว “เงียบหาย” ไปนานเกิน 3 เดือน โดยอ้างอิงจากพฤติกรรมการคลิก การเข้าเว็บไซต์ และประวัติการทำธุรกรรมก่อนหน้า

ข้อมูลที่ได้จะถูกส่งต่อไปยัง CRM ซึ่งสร้าง “Action Plan” อัตโนมัติ เช่น การแจ้งเตือนให้ทีมขายโทรติดตาม พร้อมมีข้อมูลสินค้าเดิมที่ลูกค้าเคยสนใจประกอบการสนทนา หรือแม้แต่ส่งอีเมลพร้อมคูปองส่วนลดเฉพาะบุคคล ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ยังใส่ใจ และกลับมาซื้ออีกครั้งโดยไม่ต้องทุ่มงบการตลาดใหม่

2. องค์กรบริการ: ปรับบริการให้ตรงใจ ด้วยข้อมูลความรู้สึกแบบ Real-time

องค์กรที่ให้บริการลูกค้า เช่น ธนาคาร ประกัน หรือสายการบิน มักต้องรับมือกับเคสบริการจำนวนมากผ่าน Call Center หรือแชท ด้วยระบบ CRM ทีมบริการจะสามารถติดตามสถานะเคสได้เป็นระบบ และรู้ว่าลูกค้ารายใดอยู่ในขั้นตอนใดของการแก้ไข

เมื่อเชื่อมต่อกับ CDP ระบบจะช่วยวิเคราะห์ “Sentiment” จากการพูดคุย เช่น ข้อความในแชท คำที่ใช้ในอีเมล หรือโทนเสียงในการโทรศัพท์ หากพบว่ามีความรู้สึกเชิงลบ เช่น หงุดหงิด ผิดหวัง หรือลังเล ระบบจะจัด Segment พิเศษขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และส่งแบบสอบถามความพึงพอใจในช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือแจ้งเตือนให้ผู้จัดการฝ่ายบริการเข้าไปช่วยดูแลแบบเฉพาะบุคคลทันที

ผลลัพธ์ที่ได้คือการ “ควบคุมความรู้สึกของลูกค้า” ได้แบบเรียลไทม์ ก่อนที่ความไม่พอใจจะลุกลามไปสู่การเสียลูกค้า

3. E-commerce: เพิ่มยอดขายแบบไม่ต้องถาม ด้วย Personalization อัตโนมัติ

ธุรกิจ E-commerce คือสนามรบของข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค ด้วย CDP ธุรกิจสามารถเชื่อมโยงการใช้งานของลูกค้าในทุกช่องทาง — เว็บไซต์, โมบายล์แอป, Line OA, โซเชียลมีเดีย — และรู้ทันทีว่าใครกำลังดูสินค้าอะไร หยุดอยู่หน้าตะกร้านานแค่ไหน หรือแม้แต่คลิกโฆษณา Facebook แล้วไม่ได้ซื้อ

CDP จะวิเคราะห์พฤติกรรมเหล่านี้และส่งข้อมูลไปยัง CRM เพื่อปรับระดับความเป็น VIP ของลูกค้า พร้อมออกแบบ Loyalty Program เฉพาะบุคคล เช่น แสดงป้าย “ยินดีต้อนรับกลับมา” บนหน้าเว็บ ส่งคูปองพิเศษเฉพาะกลุ่ม หรือจัดแคมเปญ Retargeting แบบ Real-time โดยที่ทีมงานไม่ต้องตั้งค่าด้วยมือ

สิ่งที่เกิดขึ้นคือการเปลี่ยน “ข้อมูล” ให้กลายเป็น “ยอดขาย” ผ่านประสบการณ์ที่ตรงใจแบบไม่ต้องเดา และลูกค้าแทบไม่รู้ตัวว่าแบรนด์กำลังดูแลเขาแบบเบื้องหลังอยู่ตลอดเวลา

การมี CDP Platforms ไม่ใช่ตัวเลือก แต่คืออนาคตของธุรกิจ

การมีเพียง CRM ในวันนี้อาจเพียงพอสำหรับการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า แต่ไม่เพียงพอสำหรับการเข้าใจลูกค้าในระดับพฤติกรรม การเพิ่ม CDP เข้ามาไม่ใช่การซ้ำซ้อน แต่คือการเสริมพลังให้ข้อมูลมีมิติที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Salesforce Ecosystem

M Intelligence ในฐานะ Salesforce Partner ที่มีประสบการณ์ตรง พร้อมช่วยให้คุณเริ่มต้นติดตั้งและเชื่อมต่อระบบ CRM และ CDP ได้อย่างไร้รอยต่อ ตั้งแต่การวางแผน ออกแบบ ไปจนถึงการพัฒนาและอบรมใช้งานจริง

หากคุณกำลังมองหาโซลูชันที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูล ติดต่อ M Intelligence วันนี้ เพื่อยกระดับการใช้ข้อมูลของคุณให้เหนือคู่แข่งทุกมิติ

ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

*รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Tranformation พร้อมแนะนำ Salesforce (CRM) ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ

 

Contact Form (#Blog)