Salesforce Thailand คืออะไร?
ในปัจจุบันการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโต แพลตฟอร์มหนึ่งที่โดดเด่นในด้านนี้คือ Salesforce ไม่ว่าคุณจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่หรือธุรกิจขนาดเล็ก Salesforce Thailand นำเสนอชุดเครื่องมืออันทรงพลังที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการขาย การตลาด และการบริการลูกค้า แต่ Salesforce มีความพิเศษอย่างไร และแตกต่างจากระบบ CRM แบบเดิมอย่างไร ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกความเข้าใจเกี่ยวกับ Salesforce ความแตกต่างจากระบบ CRM มาตรฐาน และสำรวจทั้งข้อดีและข้อเสีย Salesforce Thailand คืออะไร?
Salesforce คืออะไร และแตกต่างจาก CRM อย่างไร?
บ่อยครั้งที่ Salesforce Thailand ถูกเรียกว่าแพลตฟอร์ม CRM (Customer Relationship Management) แต่จริงๆ แล้วมันเป็นมากกว่านั้น ในขณะที่ระบบ CRM แบบดั้งเดิมได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจจัดการข้อมูลลูกค้า ช่องทางการขาย และคำขอรับบริการ Salesforce ยกระดับฟังก์ชันเหล่านี้ไปอีกขั้นด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์มบนคลาวด์ที่ครอบคลุมซึ่งผสานรวมเข้ากับกระบวนการทางธุรกิจต่างๆ ได้อย่างราบรื่น
CRM พื้นฐานอาจเน้นที่การขายและข้อมูลลูกค้าเป็นหลัก แต่ Salesforce มีเครื่องมือสำหรับระบบอัตโนมัติทางการตลาด การจัดการบริการ การวิเคราะห์ข้อมูล และแม้แต่การพัฒนาแอป ตัวอย่างเช่น ธุรกิจที่ใช้ Salesforce สามารถรวมเข้ากับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อติดตามการมีส่วนร่วมของลูกค้า หรือใช้คุณสมบัติปัญญาประดิษฐ์ (AI) เช่น Salesforce Einstein เพื่อคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้าตามข้อมูลในอดีต
ตัวอย่างเช่น แบรนด์ค้าปลีกอาจใช้ CRM แบบดั้งเดิมเพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้าและติดตามประวัติการซื้อ อย่างไรก็ตาม ด้วย Salesforce พวกเขาสามารถทำได้มากกว่านั้น เช่น การดำเนินแคมเปญการตลาดส่วนบุคคล การติดตามผลอัตโนมัติ และการใช้ AI เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าตามพฤติกรรมการซื้อก่อนหน้านี้ ระดับของการผสานรวมและความชาญฉลาดนี้คือสิ่งที่ทำให้ Salesforce แตกต่าง
Salesforce Thailand แตกต่างจาก CRM อย่างไร?
แม้ว่า Salesforce และ CRM แบบดั้งเดิมจะมีเป้าหมายที่คล้ายคลึงกัน คือ การเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างมากในด้านวิธีการ ความสามารถในการปรับขนาด และฟังก์ชันการทำงาน
แพลตฟอร์มบนคลาวด์: Salesforce Thailand เป็นแพลตฟอร์มบนคลาวด์ทั้งหมด หมายความว่าไม่จำเป็นต้องติดตั้งฮาร์ดแวร์ราคาแพงหรืออัปเดตซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อน ระบบ CRM แบบดั้งเดิมอาจต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก ในขณะที่ Salesforce ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
การปรับแต่งและการผสานรวม: Salesforce นำเสนอตัวเลือกการปรับแต่งที่ไม่มีที่สิ้นสุด ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับแต่งแพลตฟอร์มให้เหมาะกับเวิร์กโฟลว์เฉพาะ ผสานรวมกับแอปของบุคคลที่สาม และแม้แต่สร้างแอปพลิเคชันของตนเองโดยใช้ AppExchange ของ Salesforce ระบบ CRM แบบดั้งเดิมมักจะแข็งกว่า มักมีตัวเลือกการปรับแต่งที่จำกัดและต้องมีการผสานรวมเพิ่มเติม
ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วย AI: หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของ Salesforce คือ Salesforce Einstein ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ คาดการณ์แนวโน้ม ระบุโอกาสในการขาย และดำเนินงานต่างๆ แบบอัตโนมัติ CRM แบบดั้งเดิมอาจให้การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน แต่บ่อยครั้งขาดการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในระดับนี้
ความสามารถอเนกประสงค์: Salesforce เป็นมากกว่าการจัดการลูกค้า แพลตฟอร์มครอบคลุมการขาย การตลาด การบริการลูกค้า และการวิเคราะห์ ในขณะที่ระบบ CRM แบบดั้งเดิมอาจเน้นที่การขายและการจัดการข้อมูลลูกค้าเป็นหลัก
ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพที่ใช้ CRM แบบดั้งเดิมอาจจัดเก็บเฉพาะข้อมูลติดต่อของผู้ป่วยและประวัติการนัดหมาย อย่างไรก็ตาม ด้วย Salesforce Health Cloud ผู้ให้บริการสามารถจัดการการดูแลผู้ป่วยได้อย่างครอบคลุมมากขึ้นโดยการรวมบันทึกผู้ป่วย การจัดกำหนดการนัดหมาย และการแจ้งเตือนการติดตามผลอัตโนมัติทั้งหมดไว้ในแพลตฟอร์มเดียว
ข้อดีของ Salesforce คืออะไร?
Salesforce Thailandนำเสนอข้อดีมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงการดำเนินงานและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของลูกค้า ลองมาสำรวจประโยชน์หลักๆ ของ Salesforce กัน:
ความสามารถในการปรับขนาด: Salesforce สามารถปรับขนาดได้สูง จึงเหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าคุณจะเป็นสตาร์ทอัพที่มีทรัพยากรจำกัดหรือองค์กรที่มีกระบวนการที่ซับซ้อน Salesforce สามารถเติบโตไปพร้อมกับคุณ โครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มผู้ใช้และคุณสมบัติใหม่ๆ ได้เมื่อธุรกิจของคุณพัฒนาขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะไม่เติบโตเกินแพลตฟอร์ม
ความสามารถในการทำงานอัตโนมัติ: Salesforce มีความสามารถในการทำงานอัตโนมัติที่ยอดเยี่ยม ด้วยเครื่องมือต่างๆ เช่น Salesforce Flow และ Process Builder ธุรกิจต่างๆ สามารถดำเนินงานที่ซ้ำซ้อนได้โดยอัตโนมัติ เช่น การส่งอีเมลติดตามผล การมอบหมายลูกค้าเป้าหมาย และการสร้างรายงาน ซึ่งจะช่วยลดงานที่ต้องทำด้วยตนเอง และทำให้ทีมของคุณมีอิสระในการมุ่งเน้นไปที่กิจกรรมเชิงกลยุทธ์มากขึ้น
มุมมองลูกค้าแบบ 360 องศา: หนึ่งในคุณสมบัติที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดของ Salesforce คือความสามารถในการให้มุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับเส้นทางของลูกค้าของคุณ ด้วยการรวมข้อมูลการขาย การตลาด และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว คุณจะได้รับมุมมองแบบ 360 องศาของการโต้ตอบกับลูกค้าทุกครั้ง ข้อมูลเชิงลึกนี้ช่วยให้การบริการลูกค้าเป็นแบบส่วนตัวมากขึ้นและมีโอกาสในการขายข้ามผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเข้าถึงบนมือถือ: ด้วยแอป Salesforce Thailand บนมือถือ ทีมต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ทุกที่ ไม่ว่าคุณจะพบปะลูกค้าหรือเดินทาง Salesforce ช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญ เช่น การคาดการณ์ยอดขายหรือโปรไฟล์ลูกค้า จะอยู่ในมือคุณเสมอ
AppExchange: AppExchange ของ Salesforce เปรียบเสมือน App Store สำหรับธุรกิจ ซึ่งมีแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามหลายพันรายการที่สามารถขยายฟังก์ชันการทำงานของแพลตฟอร์มได้ ไม่ว่าคุณจะต้องการการวิเคราะห์ขั้นสูง เครื่องมือสำหรับรับฟังความคิดเห็นของลูกค้า หรือโซลูชันเฉพาะอุตสาหกรรมเพิ่มเติม AppExchange มีทุกสิ่งที่คุณต้องการ
ตัวอย่างเช่น บริษัทผู้ผลิตสามารถดำเนินกระบวนการจัดการลูกค้าเป้าหมายโดยอัตโนมัติโดยใช้ Salesforce ก่อนที่จะใช้แพลตฟอร์ม ทีมขายจะป้อนลูกค้าเป้าหมายด้วยตนเอง ซึ่งมักส่งผลให้การติดตามผลล่าช้า หลังจากใช้ระบบอัตโนมัติของ Salesforce พวกเขาพบว่าอัตราการแปลงเพิ่มขึ้น 40% เนื่องจากการมอบหมายลูกค้าเป้าหมายและการติดตามผลที่รวดเร็วขึ้นโดยอัตโนมัติ
Header Tag 2 : M Intelligence – ตัวแทนจำหน่าย Salesforce Thailand
เมื่อธุรกิจในประเทศไทยเลือกที่จะนำ Salesforce มาใช้ การทำงานร่วมกับตัวแทนจำหน่าย Salesforce ที่ได้รับการรับรองถือเป็นการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ M Intelligence เป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่าย Salesforce ชั้นนำในประเทศไทย ที่นำเสนอบริการที่หลากหลายเพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งาน Salesforce แต่ตัวแทนจำหน่าย Salesforce ทำอะไร และทำไมต้องเลือก M Intelligence
คำแนะนำและการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ: M Intelligence ให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญแก่ธุรกิจต่างๆ เกี่ยวกับโมดูลและแพ็คเกจ Salesforce ที่เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทต่างๆ จะไม่จ่ายเงินมากเกินไปสำหรับคุณสมบัติที่ไม่จำเป็น และได้รับโซลูชันที่ปรับแต่งมาเพื่อเพิ่มผลกระทบของแพลตฟอร์มให้สูงสุด
การปรับแต่งและการผสานรวม: M Intelligence เชี่ยวชาญในการปรับแต่ง Salesforce ให้เหมาะกับ Workflow ทางธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นการผสานรวม Salesforce กับซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ การสร้างแดชบอร์ดแบบกำหนดเอง หรือการดำเนินกระบวนการหลักๆ แบบอัตโนมัติ M Intelligence ช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์ที่ราบรื่น
การฝึกอบรมและการเตรียมความพร้อม: การเปลี่ยนไปใช้ Salesforce อาจเป็นเรื่องซับซ้อน แต่ M Intelligence ช่วยลดความยุ่งยากในกระบวนการนี้ด้วยการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติและการสนับสนุน พวกเขาช่วยให้ทีมต่างๆ ปรับตัวเข้ากับระบบได้อย่างรวดเร็ว ลดเวลาหยุดทำงาน และเพิ่มผลผลิตสูงสุดตั้งแต่วันแรก
ความเชี่ยวชาญในตลาด: ในฐานะตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย M Intelligence เข้าใจปัญหาของตลาดในประเทศ พวกเขานำข้อมูลเชิงลึกทางวัฒนธรรมและภูมิภาคมาสู่โซลูชัน Salesforce ของพวกเขา เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจต่างๆ จะสอดคล้องกลยุทธ์ CRM ของพวกเขากับความคาดหวังและข้อบังคับของลูกค้าในท้องถิ่น
เช่น ธุรกิจค้าปลีกในกรุงเทพฯ ร่วมมือกับ M Intelligence เพื่อผสานรวม Salesforce เข้ากับการดำเนินงานของพวกเขา บริษัทต้องการระบบที่สามารถจัดการข้อซักถามของลูกค้า ติดตามสินค้าคงคลัง และจัดการแคมเปญการตลาดทั้งหมดในแพลตฟอร์มเดียว M Intelligence ไม่เพียงแต่ปรับแต่ง Salesforce ให้ตรงกับความต้องการเหล่านี้ แต่ยังให้การฝึกอบรมเชิงลึกเพื่อให้มั่นใจว่าทีมค้าปลีกสามารถใช้แพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ธุรกิจมีเวลาตอบสนองการบริการลูกค้าที่ดีขึ้น 30% และยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากความพยายามทางการตลาดส่วนบุคคล
ด้วยการทำงานร่วมกับตัวแทนจำหน่าย Salesforce เช่น M Intelligence ธุรกิจต่างๆ สามารถมั่นใจได้ถึงการเปลี่ยนไปใช้ Salesforce อย่างราบรื่น พร้อมกับใช้ประโยชน์จากคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและการสนับสนุนในประเทศ
