Skip links
5 ข้อดี CRM

CRM คืออะไร? 5 เทรนด์มาแรงของ CRM ที่นักการตลาดต้องรู้ในปี 2025

CRM คืออะไร และทำไมจึงสำคัญในปี 2025

ในโลกของการตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความคาดหวังของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของ Talkdesk พบว่า ลูกค้ากว่า 58% คาดหวังบริการที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา การตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงกลายเป็นความท้าทายของทุกองค์กร และ “CRM” หรือระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การตลาดยุคใหม่ วันนี้ M Intelligence จะพาคุณไปทำความรู้จักว่า CRM คืออะไร และอัปเดตเทรนด์ล่าสุดที่จะเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดของคุณให้แม่นยำและเข้าใจลูกค้ามากขึ้น

CRM (Customer Relationship Management) คือเครื่องมือที่ช่วยจัดเก็บ วิเคราะห์ และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การสื่อสาร การติดตามผล ไปจนถึงการวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในทุกช่องทาง

จากรายงานของ Fortune ตลาด CRM ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตในอัตรา 12.5% ต่อปี จนมีมูลค่าสูงถึง 145.79 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029 เราจึงได้รวบรวม 5 เทรนด์ของ CRM ที่กำลังเปลี่ยนโฉมวิธีที่ธุรกิจเข้าใจลูกค้าในปี 2025

1. จากระบบจัดเก็บข้อมูล สู่เครื่องมือเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง

ในปี 2025 CRM ไม่ใช่แค่ระบบติดตามลูกค้าอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์เชิงลึกที่ช่วยสร้าง “Customer Profile” แบบ 360 องศา ทั้งจากข้อมูลพฤติกรรม การซื้อ ความชอบ ช่องทางติดต่อ และข้อมูลเรียลไทม์ที่เกิดขึ้นทุกวัน CRM จึงช่วยให้ทีมขายและการตลาดสามารถปรับข้อความ ข้อเสนอ และการบริการให้ตรงกับความคาดหวังของลูกค้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น

LinkedIn ระบุว่า 49% ของนักขายมืออาชีพจะลงทุนในเทคโนโลยี CRM มากขึ้น ขณะที่ 70% มองว่า CRM คือเครื่องมือที่ “จำเป็นอย่างยิ่ง” ต่อความสำเร็จในการปิดการขาย

2. CRM ไม่ใช่แค่ของทีมขาย แต่เป็นของทุกทีม

CRM ในอดีตอาจเน้นการใช้งานในทีมขายหรือบริการลูกค้า แต่ในปี 2025 เราเห็นการขยายการใช้งาน CRM ครอบคลุมเกือบทุกแผนกในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเงิน ฝ่ายผลิต ฝ่ายทรัพยากรบุคคล หรือแม้กระทั่งผู้บริหารระดับสูง เพราะข้อมูลลูกค้าคือสินทรัพย์ของทุกทีม เมื่อข้อมูลเดียวกันถูกใช้งานอย่างมีระบบ จะช่วยลดความซ้ำซ้อน สร้างการสื่อสารที่ตรงกัน และเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจทั้งองค์กร

3. Social CRM: ขยายพรมแดนสู่โซเชียลมีเดีย

CRM สมัยใหม่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มโซเชียล เช่น Facebook, Instagram, X (Twitter), และ LinkedIn เพื่อดึงข้อมูล Insight จากพฤติกรรมผู้ใช้งาน การรีวิว คอมเมนต์ หรือแม้แต่ความรู้สึกของลูกค้าเกี่ยวกับแบรนด์โดยตรง ธุรกิจสามารถนำข้อมูลนี้มาปรับใช้กับแคมเปญให้แม่นยำมากขึ้น และสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้นแบบ Real-time

4. CRM + AI = ขับเคลื่อนการตลาดด้วยข้อมูลอัจฉริยะ

ปี 2025 เป็นปีที่ CRM รวมเข้ากับเทคโนโลยี AI อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการคาดการณ์พฤติกรรมการซื้อ การแนะนำผลิตภัณฑ์อัตโนมัติ การวิเคราะห์ Sentiment หรือการสร้าง Customer Journey อัตโนมัติ ช่วยให้ทีมมาร์เก็ตติ้งวางกลยุทธ์ได้แม่นยำ ลดเวลาที่ต้องใช้ในการวิเคราะห์ และตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละรายอย่างตรงจุด

5. CRM คือแหล่งข้อมูลศูนย์กลางของทั้งองค์กร

ความท้าทายของธุรกิจยุคดิจิทัลคือข้อมูลกระจัดกระจายอยู่หลายแหล่ง แต่ CRM ที่ดีจะกลายเป็น “ศูนย์กลางข้อมูลลูกค้า” ที่รวมทุกอย่างไว้ในระบบเดียว ตั้งแต่ข้อมูลการสั่งซื้อบนเว็บไซต์ รายละเอียดจาก POS ไปจนถึงปฏิสัมพันธ์ผ่านแชท การรวมข้อมูลไว้ที่เดียวไม่เพียงช่วยประหยัดเวลาในการเข้าถึง แต่ยังช่วยให้ทุกแผนกมองเห็นภาพเดียวกันของลูกค้า (Single Source of Truth) และสามารถสร้างแคมเปญที่เชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อระหว่างช่องทางการตลาด

CRM คืออะไรในมุมของประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience)

หนึ่งในบทบาทที่เติบโตมากที่สุดของ CRM ในปี 2025 คือการเป็นเครื่องมือสำคัญในการ “ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า” หรือที่เรียกว่า Customer Experience (CX) แทนที่การใช้ CRM จะมีจุดประสงค์เพียงแค่เก็บข้อมูลลูกค้า แต่ทุกการโต้ตอบกับลูกค้า—ไม่ว่าจะผ่านเว็บไซต์ แชท อีเมล หรือโซเชียล—จะถูกบันทึกไว้และวิเคราะห์ เพื่อให้ธุรกิจสามารถออกแบบประสบการณ์ที่ลื่นไหลและเหมาะสมที่สุดกับแต่ละคนได้

ตัวอย่างเช่น ลูกค้าคนหนึ่งอาจเคยแสดงความสนใจสินค้าบางรายการผ่านเว็บไซต์ แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ CRM จะเก็บข้อมูลนี้ไว้และประสานงานกับแคมเปญการตลาดผ่านอีเมลหรือโฆษณารีมาร์เก็ตติ้งให้เหมาะกับพฤติกรรมเฉพาะของลูกค้านั้น ระบบอัตโนมัติใน CRM ยังสามารถแจ้งเตือนทีมขายหรือลูกค้าสัมพันธ์ให้ติดตามลูกค้าในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งสามารถเปลี่ยนความสนใจให้กลายเป็นยอดขายได้ทันที

CRM คือกุญแจสู่การทำ Personalization ที่แท้จริง

ความสามารถในการทำ Personalization เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หลายธุรกิจเลือกลงทุนใน CRM เพราะข้อมูลที่สะสมในระบบไม่เพียงช่วยให้ทีมงานวางแผนแคมเปญให้ตรงกลุ่ม แต่ยังสามารถระบุช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเข้าหาลูกค้า ช่องทางที่พวกเขาชอบใช้ และข้อความที่น่าจะกระตุ้นการตัดสินใจได้มากที่สุด

ในปี 2025 การสื่อสารแบบ “ส่งเหมือนกันให้ทุกคน” กลายเป็นเรื่องล้าสมัย ธุรกิจที่สามารถทำ CRM ให้เป็นหัวใจของการวิเคราะห์พฤติกรรม จะได้เปรียบในการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ เพราะจะสามารถสร้างความรู้สึก “ใส่ใจ” ให้ลูกค้าได้ในระดับบุคคล

สรุป

ปี 2025 เป็นปีที่ “CRM” กลายเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนองค์กรทั้งระบบ ไม่ใช่แค่ซอฟต์แวร์เก็บข้อมูลลูกค้าอีกต่อไป การเข้าใจเทรนด์ CRM อย่างลึกซึ้งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัว วางแผน และสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่โดดเด่นเหนือคู่แข่งได้อย่างแท้จริง

หากคุณต้องการระบบ CRM ที่ตอบโจทย์อนาคต พร้อมการให้คำปรึกษาและดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ M intelligence พร้อมอยู่เคียงข้างธุรกิจของคุณทุกขั้นตอน

ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

*รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Tranformation พร้อมแนะนำ Salesforce (CRM) ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ

 

Contact Form (#Blog)