Skip links
first-party-data

First Party Data คืออะไร? ทำไมธุรกิจยุคใหม่ต้องมีข้อมูลลูกค้าไว้ในมือ

First Party Data คืออะไร? ทำไมแบรนด์ต้องให้ความสำคัญ

หลังจากที่ Google ประกาศยกเลิกการใช้ Third-party-cookie อย่างเป็นทางการ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ได้พลิกเกมการตลาดดิจิทัลทั่วโลก ส่งผลให้นักการตลาดและแบรนด์ต่างๆ ต้องเร่งหาทางเลือกใหม่ในการเก็บข้อมูลผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหนึ่งในทางออกที่สำคัญที่สุดก็คือ การสร้างและใช้ข้อมูลลูกค้าจากแหล่งของตนเอง หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า First Party Data

ข้อมูลประเภทนี้ถูกรวบรวมผ่านช่องทางที่ธุรกิจเป็นเจ้าของโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย การสมัครรับข่าวสาร แบบสอบถาม หรือกิจกรรมที่ลูกค้าเข้าร่วมกับแบรนด์โดยสมัครใจ จึงมั่นใจได้ว่าเป็นข้อมูลที่มีคุณภาพสูง ถูกต้องตามกฎหมาย และมาพร้อมความยินยอมจากผู้ใช้งาน

ยิ่งไปกว่านั้น การมีข้อมูลจากฐานของตัวเอง ยังช่วยให้ธุรกิจเข้าใจพฤติกรรม ความสนใจ และเส้นทางการตัดสินใจของลูกค้าได้ลึกขึ้น เปิดโอกาสในการสร้างประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล (Personalized Experience) และลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มภายนอกที่อาจมีข้อจำกัดด้านการเข้าถึงในอนาคต

ข้อดีของการมีข้อมูลลูกค้าในมือ

1. ทำการตลาดได้แม่นยำและเฉพาะบุคคลมากขึ้น
การเข้าถึงข้อมูลที่รวบรวมมาจากช่องทางของแบรนด์โดยตรง เช่น เว็บไซต์ แอป หรือแคมเปญแบบสมัครสมาชิก ช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งสารที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น เช่น การแนะนำสินค้าที่ลูกค้าเคยดูหรือซื้อซ้ำ การตั้งโปรโมชั่นเฉพาะกลุ่ม หรือการปรับแต่งอีเมลให้เหมาะกับความสนใจของแต่ละคน ซึ่งสร้างความรู้สึกว่าลูกค้าได้รับการดูแลเฉพาะตัว และเพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง

2. วางกลยุทธ์ได้แม่นยำขึ้นจากข้อมูลจริง
เมื่อมีข้อมูลของลูกค้าอย่างเป็นระบบ ธุรกิจสามารถนำมาใช้วิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมและคาดการณ์ทิศทางของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งข้อมูลมีความลึกและคุณภาพสูง ก็ยิ่งช่วยให้สามารถวางแผนแคมเปญการตลาด การพัฒนาสินค้า หรือการสื่อสารให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละช่วงเวลา

3. ใช้งบประมาณการตลาดได้อย่างคุ้มค่า
การรู้จักลูกค้าอย่างละเอียดตั้งแต่ต้นทางทำให้สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงได้ทันที ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณไปกับการทดลองแคมเปญที่ไม่ตรงกลุ่ม ส่งผลให้แคมเปญโฆษณาและการสื่อสารมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งในแง่ของอัตราการเปิด การคลิก และการแปลงยอดขาย (conversion)

4. เสริมความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า
เมื่อสามารถเข้าใจและตอบโจทย์ลูกค้าในแบบเฉพาะเจาะจงได้มากขึ้น โอกาสที่จะเกิดความสัมพันธ์ในระยะยาวก็สูงตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอสิทธิพิเศษที่สอดคล้องกับพฤติกรรม หรือการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลบนหน้าเว็บไซต์ ผลลัพธ์คือความภักดีที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนในการรักษาลูกค้าเดิมที่ลดลง

5. ปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกฎหมาย
การเก็บข้อมูลโดยตรงจากลูกค้าพร้อมขอความยินยอม (consent) อย่างเหมาะสมช่วยให้ธุรกิจมั่นใจว่าอยู่ในกรอบของกฎหมายความเป็นส่วนตัว เช่น PDPA หรือ GDPR ลดความเสี่ยงด้านกฎหมาย และเสริมความเชื่อมั่นในแบรนด์ว่าให้ความสำคัญกับสิทธิของผู้บริโภค

ใช้ First Party Data อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การมีข้อมูลที่ดีไม่เพียงพอหากไม่รู้วิธีใช้งาน ธุรกิจสามารถเริ่มต้นจากการใช้ CRM เพื่อรวมจัดการข้อมูลให้เป็นระบบ เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างแผนกให้เห็นภาพรวมของลูกค้าชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ประวัติการซื้อ หรือช่องทางที่ลูกค้าชอบติดต่อ

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ เช่น การส่งอีเมลที่ปรับเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ การปรับหน้า Landing Page ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย การทำ Lookalike Audience บนแพลตฟอร์มโฆษณา หรือการสร้างแคมเปญสะสมแต้มสำหรับกลุ่มลูกค้าที่แสดงพฤติกรรมภักดีต่อแบรนด์

สรุป

First Party Dataไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือ “กลยุทธ์หลัก” สำหรับแบรนด์ที่ต้องการอยู่รอดและเติบโตในโลกการตลาดดิจิทัลปี 2025 เป็นต้นไป การลงทุนในระบบ CRM เพื่อจัดเก็บและใช้ข้อมูลจากฐานลูกค้าโดยตรงอย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้ธุรกิจมีความได้เปรียบ และพร้อมแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

หากคุณกำลังมองหาโซลูชันการจัดการข้อมูลลูกค้าแบบครบวงจร ที่สามารถช่วยคุณเก็บและใช้ข้อมูลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ M Intelligence พร้อมให้คำปรึกษา

ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

*รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Tranformation พร้อมแนะนำ Salesforce (CRM) ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ

 

Contact Form (#Blog)