Skip links
ตัวอย่าง-crm-ของบริษัทต่างๆ

ตัวอย่าง CRM ของบริษัทต่างๆ เพื่อเพิ่มยอดขายและดูแลลูกค้าอย่างยั่งยืน

ในยุคที่ธุรกิจต้องแข่งขันด้วย “ข้อมูล” การมีเครื่องมือที่ช่วยจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างครบวงจรจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น Salesforce คือหนึ่งในแพลตฟอร์ม CRM ชั้นนำของโลกที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดเข้าใจลูกค้าได้ลึกขึ้น เพิ่มยอดขาย และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว ตัวอย่าง CRM ของบริษัทต่างๆ เช่น Coca-Cola, L’Oréal และธนาคารกรุงเทพ ต่างใช้ CRM เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าแบบเชิงลึกและสร้างกลยุทธ์การตลาดที่แม่นยำ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขาย การบริการ และการรักษาลูกค้าในระยะยาวได้จริง

ในประเทศไทย M Intelligence คือหนึ่งใน Salesforce Authorized Partner ที่เชี่ยวชาญในการออกแบบและติดตั้งระบบ CRM ที่ตอบโจทย์บริบทธุรกิจไทยอย่างแท้จริง ทั้งในกลุ่ม B2B, B2C และองค์กรขนาดใหญ่

CRM คืออะไร? และทำไมธุรกิจต้องมี

CRM (Customer Relationship Management) คือระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า ที่ออกแบบมาเพื่อรวบรวม จัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าทั้งหมดไว้ในศูนย์กลางเดียว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการติดต่อ ประวัติการซื้อ พฤติกรรมการสื่อสาร หรือข้อมูลการบริการหลังการขาย

CRM ไม่ใช่เพียงแค่ซอฟต์แวร์สำหรับเก็บข้อมูล แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจ “เข้าใจลูกค้า” อย่างลึกซึ้ง สามารถส่งมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Personalized Experience) และสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ทำไม CRM ถึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นในยุคนี้?

ในยุคดิจิทัลที่ลูกค้าสามารถเปลี่ยนแบรนด์ได้เพียงคลิกเดียว ความเร็ว ความแม่นยำ และความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญ CRM เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้แบบทันเวลาและตรงจุด ทั้งในแง่ของการขาย การตลาด และการบริการ

ประโยชน์หลักของระบบ CRM

1. บันทึกข้อมูลลูกค้าแบบรวมศูนย์

ข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดจะถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบในฐานข้อมูลกลาง ไม่ว่าจะเป็นชื่อ เบอร์โทร อีเมล ช่องทางที่ติดต่อมา หรือพฤติกรรมการซื้อที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้ทีมขายและทีมบริการเข้าถึงข้อมูลล่าสุดได้ทันที โดยไม่ต้องค้นหาข้อมูลจากหลายแหล่ง

2. ติดตามสถานะลูกค้าในแต่ละขั้นตอน

ระบบ CRM จะช่วยให้ธุรกิจมองเห็นว่าแต่ละลูกค้าอยู่ในขั้นตอนไหนของกระบวนการขาย เช่น ยังเป็นเพียง Lead หรือเข้าสู่ขั้นตอนเสนอราคาแล้ว ซึ่งช่วยให้ทีมขายสามารถติดตามโอกาสในการปิดการขายได้อย่างแม่นยำ

3. วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างแคมเปญที่ตรงใจ

CRM สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพฤติกรรมของลูกค้า เช่น ลูกค้ากลุ่มใดมักซื้อสินค้าประเภทไหน หรือมีแนวโน้มจะซื้อซ้ำเมื่อไร จากนั้นธุรกิจสามารถนำข้อมูลไปสร้างแคมเปญการตลาดที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น การส่งโปรโมชั่นส่วนลดเฉพาะกลุ่ม VIP

4. สื่อสารแบบ Personalization ได้อย่างแม่นยำ

แทนที่จะส่งข้อความหรืออีเมลแบบเดียวกันให้ลูกค้าทุกคน CRM ช่วยให้คุณสามารถสื่อสารกับลูกค้าแต่ละรายด้วยข้อความที่สอดคล้องกับความต้องการและพฤติกรรม เช่น แนะนำสินค้าที่คล้ายกับรายการก่อนหน้าที่เคยซื้อ หรือแจ้งเตือนบริการที่ครบกำหนดเฉพาะของแต่ละคน

5. ลดเวลาทำงานซ้ำซ้อนของทีมขายและบริการ

ระบบสามารถช่วยทำงานแบบอัตโนมัติ (Automation) เช่น ส่งอีเมลติดตามผลโดยอัตโนมัติหลังปิดการขาย หรือตั้งค่าให้ระบบแจ้งเตือนทีมงานเมื่อลูกค้าไม่ได้ติดต่อกลับภายใน 7 วัน ซึ่งช่วยลดงาน Manual และเพิ่มประสิทธิภาพของทีม

ตัวอย่าง CRM ของบริษัทต่างๆ ชั้นนำที่ใช้จริงในการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า

1. Coca-Cola (ธุรกิจเครื่องดื่มระดับโลก)

Coca-Cola ใช้ Salesforce CRM เพื่อจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าในระดับ B2B โดยเฉพาะกับร้านค้าปลีกและตัวแทนจำหน่าย ระบบช่วยให้สามารถติดตามคำสั่งซื้อ การสื่อสาร และประวัติการบริการของแต่ละลูกค้าแบบ Real-time นอกจากนี้ยังใช้ข้อมูลจาก CRM มาวิเคราะห์เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดเฉพาะพื้นที่ ทำให้เพิ่มยอดขายในแต่ละช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank)

หนึ่งในธนาคารที่ใช้ CRM เพื่อสร้างประสบการณ์แบบ Personalization ให้กับลูกค้าแต่ละราย โดยรวบรวมข้อมูลจากหลายช่องทาง ทั้งสาขา แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ และคอลเซ็นเตอร์ เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบ 360 องศา ส่งผลให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์การเงินได้ตรงตามความต้องการ เช่น สินเชื่อ บัตรเครดิต หรือการลงทุนเฉพาะบุคคล

3. L’Oréal (ธุรกิจความงามระดับโลก)

L’Oréal ใช้ CRM เพื่อเชื่อมต่อการตลาดแบบ Omnichannel ทั้งออนไลน์และหน้าร้าน โดยเก็บข้อมูลลูกค้าจากการซื้อสินค้า เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และ Social Media มาวิเคราะห์พฤติกรรมเชิงลึก ทำให้สามารถส่งแคมเปญการตลาดเฉพาะบุคคล เช่น โปรโมชั่นตามพฤติกรรมการซื้อเดิม หรือแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการกลับมาซื้อซ้ำได้อย่างชัดเจน

ข้อควรพิจารณาก่อนเลือกระบบ CRM

ก่อนเลือกระบบ CRM ธุรกิจควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้

  • ขนาดของธุรกิจ: ระบบ CRM มีให้เลือกหลายขนาด ธุรกิจควรเลือกระบบ CRM ที่มีขนาดเหมาะสมกับธุรกิจของตน
  • ประเภทของธุรกิจ: ระบบ CRM มีให้เลือกหลายประเภท ธุรกิจควรเลือกระบบ CRM ที่เหมาะกับประเภทของธุรกิจของตน
  • คุณสมบัติของระบบ CRM: ธุรกิจควรเลือกระบบ CRM ที่มีคุณสมบัติที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจของตน
  • ราคาของระบบ CRM: ระบบ CRM มีราคาแตกต่างกัน ธุรกิจควรเลือกระบบ CRM ที่มีราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของธุรกิจของตน

สรุป

ระบบ CRM เป็นซอฟต์แวร์ที่มีศักยภาพสูงในการช่วยธุรกิจปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานหลายด้าน ธุรกิจที่สนใจใช้ระบบ CRM ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับระบบ CRM ต่างๆ ให้ละเอียดก่อนเลือกระบบ CRM ที่เหมาะกับธุรกิจของตน

ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

*รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Tranformation พร้อมแนะนำ Salesforce (CRM) ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ

 

Contact Form (#Blog)