Skip links

Marketing Automation สำหรับ B2B และ B2C ต่างกันหรือไม่?

ในยุคที่ข้อมูลคือพลัง ธุรกิจไม่ว่าจะเป็น B2B หรือ B2C ต่างก็มองหาเครื่องมือที่จะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าอย่างตรงจุด รวดเร็ว และแม่นยำ M Intelligence ในฐานะ Salesforce Partner ได้นำเทคโนโลยีระดับโลกมาผสานกับประสบการณ์เชิงลึกในประเทศไทย เพื่อช่วยองค์กรวางกลยุทธ์ด้าน Marketing Automation ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละประเภทธุรกิจ

หลักการตลาดไม่ต่าง แต่วิธีการนำไปใช้ต่างกัน

แม้ว่าหลักการตลาดจะเหมือนกันไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจแบบ B2C, B2B หรือ B2B2C เช่น การเข้าใจลูกค้า การส่งมอบคุณค่า และการสร้างความสัมพันธ์ แต่เมื่อพูดถึง Marketing Automation ซึ่งเกี่ยวข้องกับการ “ลงมือทำ” (Implementation) และการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม ความแตกต่างจะเริ่มชัดเจนและส่งผลต่อผลลัพธ์โดยตรง

ธุรกิจ B2C: ตอบสนองไว สื่อสารตรงใจผู้บริโภค

ในธุรกิจ B2C เป้าหมายหลักคือการเข้าถึงผู้บริโภคทั่วไปให้ได้ในวงกว้าง ซึ่งลูกค้าในกลุ่มนี้มักตอบสนองต่อการสื่อสารแบบทันทีทันใด อิงตามอารมณ์หรือโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจ Customer Journey จึงมักสั้น และการตัดสินใจซื้อสามารถเกิดขึ้นได้ในไม่กี่นาที

Marketing Automation สำหรับ B2C จึงมุ่งเน้นไปที่การสร้าง Engagement อย่างรวดเร็ว การส่งข้อความหรืออีเมลที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคลตามพฤติกรรม การแนะนำสินค้าอัตโนมัติผ่าน AI รวมไปถึงแคมเปญการตลาดแบบเรียลไทม์ผ่านช่องทางอย่างโซเชียลมีเดีย, SMS, อีเมล และแอปพลิเคชันมือถือ

แพลตฟอร์มอย่าง Salesforce Marketing Cloud ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ลักษณะการทำงานแบบนี้ ช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพในระดับแมส

ธุรกิจ B2B: กลยุทธ์ลึก ช่วงเวลาซื้อขายยาวนาน

เมื่อพูดถึงธุรกิจ Business-to-Business โฟกัสจะเปลี่ยนจาก “ปริมาณ” ไปสู่ “คุณภาพ” ของการสื่อสาร กลุ่มเป้าหมายของ B2B มักเป็นผู้บริหารระดับสูง ฝ่ายจัดซื้อ หรือเจ้าของธุรกิจ ซึ่งกระบวนการตัดสินใจจะใช้เวลานานและต้องการข้อมูลที่เจาะลึก ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคนิค ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ หรือความคุ้มค่าในระยะยาว

Marketing Automation ใน B2B จึงไม่ได้เน้นที่การปิดการขายเร็ว แต่เน้นที่การสร้างความสัมพันธ์ผ่านการให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง (Lead Nurturing) เช่น การส่งอีเมลแบบเจาะจงตามลำดับขั้นของกระบวนการขาย การจัด Webinar การแจก Whitepaper หรือ Case Study ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของลูกค้า

เครื่องมืออย่าง Salesforce Pardot (หรือ Account Engagement) ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการตลาด โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบ CRM ได้อย่างราบรื่น ทำให้ทีมการตลาดและทีมขายทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การสร้าง Lead ไปจนถึงการปิดดีล พร้อมวัด ROI ได้ครบถ้วน

ทำไมการปรับให้เหมาะกับบริบทของ B2B และ B2C จึงสำคัญ?

แม้จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน เช่น Salesforce Marketing Cloud หรือ Pardot แต่หากไม่ได้ปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับลักษณะของลูกค้า ก็อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ตรงตามเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น การส่งอีเมลโปรโมชั่นแบบเดียวกันไปหาผู้บริหารองค์กรใน B2B อาจไม่เหมาะสมเท่ากับการส่ง Case Study ที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรมของเขา

การรู้ว่าใครคือผู้รับสาร และเส้นทางการตัดสินใจของเขาเป็นอย่างไร จึงเป็นหัวใจของ Marketing Automation ที่มีประสิทธิภาพ

Marketing Cloud vs Pardot (Account Engagement): เลือกให้เหมาะกับเป้าหมาย

หนึ่งในคำถามยอดฮิตจากลูกค้าที่กำลังเริ่มต้นหรืออยู่ระหว่างการขยายระบบ Marketing Automation คือ “ควรใช้ Marketing Cloud หรือ Pardot ดี?” ซึ่งคำตอบไม่ได้ตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับว่า เป้าหมายของธุรกิจคืออะไร และใครคือลูกค้าหลักของคุณ เป็น B2C ที่ต้องการขยายฐานลูกค้าด้วยแคมเปญขนาดใหญ่? หรือเป็นธุรกิจแบบ B2B ที่ต้องการสร้าง Lead คุณภาพเพื่อส่งต่อให้ทีม Sales?

ลองมาดูแนวทางการเลือก พร้อมตัวอย่างจากธุรกิจจริงที่ประสบความสำเร็จ:

1. ต้องการ Engagement กับลูกค้าจำนวนมากผ่านหลายช่องทาง

หากคุณทำธุรกิจแบบ B2C เช่น E-commerce, ค้าปลีก หรือบริการด้านไลฟ์สไตล์ ที่ต้องการสื่อสารกับลูกค้าจำนวนมากแบบเรียลไทม์ผ่านหลายช่องทางในคราวเดียว Salesforce Marketing Cloud คือคำตอบที่เหมาะสมที่สุด

คุณสมบัติเด่นของ Marketing Cloud:

  • สร้าง Customer Journey แบบเฉพาะบุคคลได้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ Awareness จนถึง Loyalty

  • รองรับการสื่อสารแบบ Omnichannel เช่น LINE, Facebook, Email, SMS และ Push Notification ได้พร้อมกัน

  • มีระบบ AI (Einstein) ในตัว ที่ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมและแนะนำเนื้อหาหรือโปรโมชั่นที่เหมาะสม

  • Dashboard รายงานผลแบบ Real-time พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลจาก CDP

2. ต้องการสร้าง Lead และเพิ่ม Productivity ให้ทีม Sales

สำหรับองค์กรที่ทำธุรกิจ B2B (Business-to-Business) เช่น บริษัทเทคโนโลยี โซลูชัน SaaS หรือบริการแบบ Enterprise ซึ่งเป้าหมายคือการสร้างความน่าเชื่อถือ สร้าง Lead คุณภาพ และส่งต่อให้ทีม Sales เพื่อนำไปปิดการขายในลำดับถัดไป Salesforce Pardot หรือชื่อใหม่ว่า Account Engagement คือเครื่องมือที่ตอบโจทย์มากที่สุด

คุณสมบัติเด่นของ Pardot:

  • ระบบ Lead Scoring & Grading ที่ช่วยประเมินว่าใครคือ Lead ที่มีศักยภาพจริง

  • Email Marketing แบบ Drip Campaign ที่ออกแบบได้ตามขั้นของ Funnel

  • การสร้าง Landing Page, แบบฟอร์มเก็บข้อมูล พร้อมระบบ Tracking

  • วัดผล ROI ได้แบบ End-to-End และเชื่อมต่อกับ Sales Cloud โดยตรง

  • เหมาะกับทีมขายที่ต้องการ Insight เพื่อติดตามและติดต่อลูกค้าได้อย่างแม่นยำ

3. ต้องการผสมผสานทั้ง B2C และ B2B

บางองค์กรมีความซับซ้อนมากกว่าปกติ เช่น ต้องให้บริการกับผู้บริโภคทั่วไป และในขณะเดียวกันต้องบริหารความสัมพันธ์กับพันธมิตร คู่ค้า หรือกลุ่มเป้าหมายระดับองค์กร การใช้เพียง Marketing Cloud หรือ Pardot อาจไม่เพียงพอ ทางออกที่ดีที่สุดคือการใช้งานทั้งสองระบบควบคู่กัน เพื่อครอบคลุมทั้งสองฝั่งได้อย่างครบถ้วน

แนวโน้ม Marketing Automation ปี 2025 สำหรับ B2B และ B2C

ในปี 2025 เทคโนโลยี Marketing Automation ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของธุรกิจทั้งฝั่ง B2B และ B2C ที่ต้องเผชิญกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ความคาดหวังที่สูงขึ้น และการแข่งขันที่ใช้ “ข้อมูล” เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก การเข้าใจแนวโน้มของแต่ละฝั่งจะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์ได้ทันและเลือกใช้ระบบให้เหมาะกับบริบทของธุรกิจ

B2B Trends: ความแม่นยำ ลึก และเชื่อมโยงมากขึ้น

  1. ABM (Account-Based Marketing) ผสาน AI และ Intent Data
    B2B Marketing กำลังเปลี่ยนจากการยิงแคมเปญกว้าง ๆ ไปสู่การเจาะกลุ่มบัญชีเป้าหมาย (Accounts) ที่มีศักยภาพสูง โดยการผสานข้อมูล Intent Data และ AI จะช่วยให้รู้ว่าองค์กรไหนกำลังแสดง “สัญญาณความสนใจ” และสามารถปรับคอนเทนต์ให้ตรงใจได้ในจังหวะที่เหมาะสมที่สุด

  2. การเชื่อมระบบ CRM + CDP + Marketing Automation แบบครบวงจร
    เพื่อให้ทีม Sales และ Marketing ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น จำเป็นต้องรวมข้อมูลจากทุกแหล่งให้เห็นเป็นภาพเดียว ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมบนเว็บไซต์ ข้อมูลจาก CRM หรือกิจกรรมแคมเปญ ทุกอย่างต้องไหลไปสู่การวิเคราะห์และการตัดสินใจแบบ Real-time

  3. Email Personalization ยังคงทรงพลัง
    แม้จะมีช่องทางใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ในโลก B2B อีเมลที่ “ใช่” ยังเป็นเครื่องมือที่มีอัตราการเปิดและตอบกลับสูงสุด การทำ Drip Campaign ที่ปรับแต่งเนื้อหาตามอุตสาหกรรม, ตำแหน่งงาน, หรือพฤติกรรมในเว็บไซต์ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลดีที่สุด

B2C Trends: ประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่เร็วและไร้รอยต่อ

  1. AI-Powered Personalization แบบ Real-time
    B2C ในปี 2025 ไม่ใช่แค่รู้จักลูกค้า แต่ต้อง “คาดการณ์” ได้ว่าลูกค้าต้องการอะไรในช่วงเวลานั้น การใช้ AI เช่น Salesforce Einstein หรือ CDP ที่วิเคราะห์พฤติกรรมแบบ Real-time จะช่วยให้ธุรกิจสามารถแสดงข้อความ โฆษณา หรือโปรโมชั่นที่ “ตรงใจในเวลาที่ใช่” ได้ทันที

  2. Cross-channel Engagement บนแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคใช้งานจริง
    LINE, Facebook Messenger, Instagram, TikTok รวมถึงอีเมลและเว็บไซต์ยังคงเป็นหัวใจของการสื่อสาร B2C ธุรกิจที่สามารถออกแบบ Journey ให้ต่อเนื่องข้ามช่องทางโดยไม่ขาดตอน จะสามารถดึงดูดและรักษาฐานลูกค้าได้ดีกว่าคู่แข่ง

  3. CDP + Marketing Automation = ประสบการณ์ 1:1 ที่แท้จริง
    การรวมศูนย์ข้อมูล (Data Centralization) ผ่าน CDP ช่วยให้แบรนด์เข้าใจลูกค้าในทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าชมเว็บไซต์ การซื้อครั้งก่อน หรือข้อความที่เคยส่งเข้ามา การเชื่อมโยงข้อมูลนี้เข้ากับระบบ Marketing Automation จะทำให้แบรนด์สามารถออกแบบการสื่อสารที่ตอบสนองได้ถึงระดับบุคคล (1:1 Personalization) อย่างมีประสิทธิภาพ

แล้วธุรกิจของคุณควรเริ่มต้นจากตรงไหน?

ก่อนจะเลือกแพลตฟอร์ม Marketing Automation ใด ๆ ธุรกิจควรถามตัวเองให้ชัดเจนก่อนว่า:

  • ลูกค้าของคุณคือใคร? เป็นกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป หรือเป็นผู้ตัดสินใจระดับองค์กร?

  • คุณต้องการผลลัพธ์แบบไหน? ต้องการเพิ่มยอดขายผ่าน Engagement หรือมุ่งเน้นการสร้าง Lead คุณภาพให้ทีมขาย?

  • ทีมภายในมีความพร้อมแค่ไหนในการดูแลและวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบ Automation?

  • ระบบ CRM, CDP หรือ Marketing Cloud ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน รองรับการเชื่อมต่อและวิเคราะห์ข้อมูลแบบรวมศูนย์หรือไม่?

คำตอบของคำถามเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดว่าองค์กรควรเริ่มจาก Marketing Cloud, Pardot (Account Engagement) หรือการผสานทั้งสองระบบเข้าด้วยกัน เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มเป้าหมายและเป้าหมายขององค์กรอย่างแท้จริง

M Intelligence: ผู้ช่วยวางกลยุทธ์ Automation ที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณ

ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจ B2B ที่ต้องการระบบสร้าง Lead ที่แม่นยำและพร้อมส่งต่อให้ทีม Sales หรือเป็นแบรนด์ B2C ที่ต้องการสร้าง Customer Journey แบบ 1:1 ผ่านทุกช่องทาง ทีม M Intelligence พร้อมช่วยออกแบบกลยุทธ์และวางระบบให้เหมาะกับโครงสร้างธุรกิจของคุณ ด้วยการนำความสามารถของ Salesforce Marketing Cloud และ Pardot มาผสานกับความเข้าใจตลาดในประเทศไทย

หากคุณกำลังมองหาโซลูชัน Marketing Automation ที่สามารถปรับตัวตามกลุ่มลูกค้า ขยายผลการตลาด และเพิ่มประสิทธิภาพการขายได้อย่างแท้จริง M Intelligence พร้อมเป็น Partner ด้านเทคโนโลยีการตลาดที่คุณไว้วางใจได้ในยุคของ Data-Driven Marketing

ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

*รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Tranformation พร้อมแนะนำ Salesforce (CRM) ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ

 

Contact Form (#Blog)