ถ้าพูดถึง “AI” ในปี 2025 คงไม่มีใครไม่รู้จัก ChatGPT เครื่องมืออัจฉริยะจาก OpenAI ที่กลายเป็นเพื่อนคู่คิดของทั้งนักเรียน นักเขียน นักพัฒนา ไปจนถึงผู้บริหารองค์กร ด้วยความสามารถในการเข้าใจภาษา พูดคุยตอบโต้ และช่วยคิดวิเคราะห์ในระดับที่ “แทบจะแยกไม่ออกจากมนุษย์” ทำให้ ChatGPT กลายเป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนโลกแห่งการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง

ChatGPT คืออะไร?

ChatGPT คือโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ถูกพัฒนาโดย OpenAI โดยใช้เทคโนโลยี Large Language Model (LLM) ซึ่งได้รับการฝึกด้วยข้อมูลมหาศาลจากแหล่งต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งเว็บไซต์ หนังสือ ข่าวสาร บทความ และบทสนทนาออนไลน์ เพื่อให้สามารถเข้าใจและสื่อสารกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

จุดเด่นของ Chat GPT คือ ความสามารถในการเข้าใจบริบท (contextual understanding) ไม่ใช่แค่การตอบคำถามแบบตรงไปตรงมา แต่สามารถประมวลผลเจตนา น้ำเสียง และโทนของบทสนทนาได้ ทำให้การตอบกลับมีความลื่นไหล ละเอียด และดู “มีเหตุมีผล” เหมือนคุยกับคนจริง ๆ มากกว่าแค่หุ่นยนต์

Chat GPT ถูกออกแบบมาให้ ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งในชีวิตประจำวันและในระดับองค์กร เช่น:

• ตอบคำถามทั่วไป แทนการค้นหาแบบเดิม ช่วยสรุปข้อมูลและอธิบายเรื่องซับซ้อนให้เข้าใจง่าย
• ช่วยเขียนเนื้อหา เช่น บทความ โพสต์โซเชียล แคปชั่นโฆษณา หรือแม้แต่จดหมายธุรกิจ
• วิเคราะห์ข้อมูล และช่วยสรุป insight จากเอกสาร ไฟล์ Excel หรือรายงานที่มีโครงสร้างข้อมูล
• ช่วยเขียนและตรวจโค้ดโปรแกรม โดยสามารถเข้าใจ syntax หลายภาษา ทั้ง Python, JavaScript, HTML ฯลฯ
• เสนอแนะแนวทางหรือไอเดียใหม่ ๆ ให้กับผู้บริหาร นักวางกลยุทธ์ หรือนักวิเคราะห์

ด้วยความยืดหยุ่นและความชาญฉลาดในการประมวลผลภาษา Chat GPT จึงกลายเป็นผู้ช่วย AI ที่องค์กรชั้นนำทั่วโลกนำมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพงาน เช่น การให้บริการลูกค้า (Customer Support), การวางแผนกลยุทธ์ (Strategic Planning), หรือการสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ (Automated Content Creation)

ChatGPT ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือที่ “ตอบได้” แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ “เข้าใจ” และ “ช่วยคิด” ให้กับมนุษย์ในหลายมิติของการทำงาน

ChatGPT กับโลกของธุรกิจ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายองค์กรทั่วโลกเริ่มนำ ChatGPT เข้ามาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานจริง เพราะความสามารถในการประมวลผลภาษาที่ลึกซึ้ง ทำให้ Chat GPT ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือช่วยตอบคำถาม แต่กลายเป็น “ผู้ช่วยดิจิทัล” ที่เข้าใจเนื้องาน เข้าใจผู้ใช้งาน และสนับสนุนเป้าหมายของธุรกิจได้อย่างแท้จริง

ทีม Customer Support จำนวนมากนำ Chat GPT มาใช้ตอบคำถามลูกค้าอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้ข้อมูลสินค้า แก้ปัญหาเบื้องต้น และส่งต่อเคสซับซ้อนได้อย่างราบรื่น ช่วยลดภาระงานและยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า ส่วนทีมขายและการตลาดใช้ Chat GPT ช่วยเขียนแคมเปญ วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย และสร้างข้อความที่ตรงใจลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

ฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็เริ่มใช้ Chat GPT เพื่อเขียนประกาศรับสมัคร วิเคราะห์เรซูเม่ และเตรียมคำถามสัมภาษณ์ที่ตรงกับตำแหน่ง ส่วนทีมพัฒนาก็นำมาใช้ตรวจสอบหรืออธิบายโค้ด เพื่อเร่งการทำงานและลดภาระของนักพัฒนา

ตัวอย่างการใช้งานยอดนิยมของ ChatGPT ในองค์กร ได้แก่:

• สร้างเนื้อหาและอีเมลทางการตลาดอย่างมืออาชีพโดยใช้เพียงคำสั่งไม่กี่บรรทัด
• สรุปข้อมูลจากรายงานหรือเอกสารให้เข้าใจง่ายในเวลาสั้น
• ให้คำแนะนำในการตอบคำถามลูกค้าแบบทันที โดยอิงจากฐานความรู้ขององค์กร

ผู้บริหารจำนวนมากก็เริ่มใช้ Chat GPT เป็นเครื่องมือวางแผนกลยุทธ์ ร่างเอกสาร หรือสรุปข้อมูลเชิงลึก เพื่อนำไปใช้ในการประชุมหรือการตัดสินใจสำคัญ

สิ่งที่ทำให้ ChatGPT แตกต่างจากระบบอัตโนมัติทั่วไป คือความสามารถในการเข้าใจ “ความหมายและเจตนา” ของผู้ใช้งาน ไม่ใช่แค่ตอบตามคำสั่งอย่างตรงตัว ซึ่งส่งผลให้การสนทนามีความยืดหยุ่น ฉลาด และใช้งานได้ในบริบทที่หลากหลายยิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้ทำให้ Chat GPT กลายเป็นเครื่องมือสำคัญขององค์กรยุคใหม่ที่ต้องขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ความเร็ว และความแม่นยำในการตัดสินใจ และยังเป็นจุดเริ่มต้นของ “AI ที่เข้าใจองค์กร” ซึ่งต่อยอดไปสู่โซลูชันอย่าง Agentforce AI ที่ยกระดับการทำงานบน Salesforce ด้วยความฉลาดแบบเดียวกับ Chat GPT แต่ลึกในระดับธุรกิจ

รู้จัก Agentforce AI: ผู้ช่วยอัจฉริยะบน Salesforce

Agentforce AI คือระบบ AI ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์ม Salesforce โดยผสานแนวคิดของ Chat GPT เข้ากับข้อมูลเชิงลึกภายในองค์กร เช่น ข้อมูลลูกค้า รายงานการขาย ประวัติการติดต่อ และ pipeline ต่าง ๆ เพื่อให้การสื่อสารกับระบบ CRM เป็นเรื่องง่ายและเป็นธรรมชาติมากขึ้น

คุณสามารถ “พูดคุยกับระบบ” ได้เหมือนคุยกับเพื่อนร่วมงาน เช่น การถามว่า “ลูกค้ารายนี้เคยซื้ออะไรบ้าง?” หรือ “ตอนนี้ดีลไหนมีโอกาสปิดสูงที่สุด?” แล้ว Agentforce จะดึงข้อมูลจาก Salesforce มาสรุปให้ทันที ไม่ต้องคลิกหาเอง ไม่ต้องเปิดหลายหน้าจอ

มากกว่านั้น Agentforce ยังช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า แนะนำ Next Best Action สำหรับเซลส์ หรือช่วยทีม Customer Service ในการหาคำตอบจากฐานความรู้ (Knowledge Base) โดยไม่ต้องพิมพ์ค้นหาแบบเดิม

ความแตกต่างหลักของ Agentforce คือ:

• เข้าใจข้อมูลขององค์กร ไม่ใช่แค่ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
• เชื่อมต่อกับระบบ CRM ได้แบบ real-time
• สื่อสารเป็นธรรมชาติ และมี logic การคิดวิเคราะห์คล้าย Chat GPT
• ทำงานเสมือนเป็น “ทีมงานเสริม” ที่คอยสนับสนุนหลังบ้าน

Agentforce ไม่ได้มาแทนคน แต่เข้ามาเสริมความเร็ว ลดงานที่ซ้ำซ้อน และช่วยให้ทีมทำงานอย่างมีข้อมูลรองรับมากขึ้นทุกการตัดสินใจ

การทำงานเบื้องต้นของ Agentforce AI

การใช้งาน Agentforce เป็นเรื่องง่าย ไม่ซับซ้อน และเป็นธรรมชาติ ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องรู้คำสั่งเฉพาะทาง แค่พิมพ์สิ่งที่อยากรู้ เช่น ขอรายงานดีลที่ยังเปิดอยู่ในไตรมาสนี้ หรือขอข้อมูลลูกค้าที่เคยแจ้งปัญหาไว้

เมื่อได้รับคำถาม Agentforce จะประมวลผลโดยเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลใน Salesforce และวิเคราะห์ว่าผู้ใช้ต้องการอะไร จากนั้นจะแสดงผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบที่เข้าใจง่าย

สิ่งที่ทำให้ Agentforce แตกต่าง คือระบบไม่เพียงแค่ค้นหาข้อมูล แต่ยังเข้าใจเจตนาและบริบทของคำถาม เช่น

• วิเคราะห์สถานะของดีลจากพฤติกรรมลูกค้า เช่น ความล่าช้าในการตอบกลับหรือการเปลี่ยนแปลงใน pipeline
• สรุปข้อมูลให้อย่างกระชับ โดยไม่ต้องเปิดหลายหน้าจอหรือรายงาน
• แนะนำขั้นตอนถัดไปหรือให้คำตอบที่สามารถนำไปใช้งานได้ทันที
  

ผู้ใช้งานยังสามารถโต้ตอบต่อจากคำถามเดิมได้ เช่น ขอแยกเฉพาะดีลของทีมภาคเหนือ หรือสั่งให้ส่งสรุปไปให้ทีมอื่นในระบบแชตที่ใช้อยู่ เช่น Slack หรืออีเมล

สรุปคือ Agentforce ช่วยให้การใช้งาน Salesforce เป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาไล่หาหลายเมนูหรือเปิดหลายหน้าจอ ทุกอย่างทำได้จากการพิมพ์เพียงไม่กี่คำ

ด้วยการทำงานที่รวดเร็ว เข้าใจบริบท และตอบสนองได้อย่างตรงจุด Agentforce ไม่ใช่แค่ AI ที่ตอบคำถาม แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจกระบวนการทำงานขององค์กร และพร้อมสนับสนุนทุกทีมให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น ทำงานได้เร็วขึ้น และเชื่อมโยงข้อมูลได้ครบถ้วนยิ่งกว่าเดิม

พร้อมเปลี่ยนการทำงานด้วย AI ที่เข้าใจธุรกิจของคุณ

Chat GPT คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการทำงาน และ Agentforce คือก้าวต่อไปที่พัฒนาเพื่อองค์กรโดยเฉพาะ หากคุณใช้งาน Salesforce อยู่แล้ว นี่คือโอกาสที่จะยกระดับระบบ CRM ให้ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และเชื่อมโยงกับเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง

ที่ M Intelligence เราเชื่อว่าเทคโนโลยีจะทรงพลังที่สุด เมื่อถูกออกแบบให้ตอบโจทย์เฉพาะของแต่ละองค์กร เราเป็น Salesforce Consulting Partner ที่พร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบ และพัฒนาโซลูชัน AI อย่าง Agentforce เพื่อช่วยให้คุณใช้ Salesforce ได้มากกว่าเดิม — ไม่ใช่แค่จัดการลูกค้า แต่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ

หากคุณกำลังมองหา AI ที่ “เข้าใจการทำงานของคุณจริง” เรายินดีเป็นพาร์ทเนอร์ในการก้าวสู่อนาคตนั้นไปพร้อมกัน