CRM สามารถเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างไร?
CRM โดยส่วนมากแล้วจะถูกใช้โดยนักการตลาดและเซลล์เพื่อจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าและการสื่อสารของแบรนด์กับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าเป้าหมาย CRM ในปัจจุบันมีการพัฒนาจนถึงจุดที่สามารถจัดการความสัมพันธ์ที่แบรนด์มีกับลูกค้าได้ดีขึ้นตลอด Customer journey ของลูกค้า โดยในบทความนี้จะกล่าวถึง 3 วิธีที่สามารถใช้ CRM เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
“ตามคำจำกัดความแล้วประสบการณ์ของลูกค้าเกี่ยวข้องกับทุกปฏิสัมพันธ์ที่ลูกค้ามีกับบริษัทตั้งแต่เห็น เลือกซื้อ พูดคุยสอบถาม จนถึงการปิดการขาย โดย CRM จะเป็นเสมือนแกนหลักทางเทคนิคที่จะช่วยจัดการ Customer journey ให้ดียิ่งขึ้น ” Tony Kavanagh, CMO ของ Insightly”
CRM ประเภทต่างๆ
CRM ถูกแบ่งออกหลักๆเป็น 3 ประเภท: 1.Operational 2.analytical 3.collaborative ถึงแม้ว่า CRM ทั้งหมดจะแชร์ฟังก์ชันการทำงานหลักบางอย่าง แต่บทบาทหลักของแต่ละตัวก็แตกต่างกัน
Operational CRM: โดยบทบาทหลักของ Operational CRMถูกใช้เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและทำให้กระบวนการขายการตลาดและการบริการเป็นไปโดยอัตโนมัติ(เน้นการทำ Automation) ใช้สร้างลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและแปลงจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เป็นลูกค้าจริงให้ได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถเก็บรายละเอียดและข้อมูลทั้งหมดได้ด้วยว่าลูกค้ามีการเข้ามาจากช่องทางไหน
Analytical CRM: บทบาทหลักของ Analytical CRM ก็คือการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าที่รวบรวมมาจาก Touchpoints ต่างๆ ในการเดินทางของลูกค้า(Customer Journey) CRM เชิงวิเคราะห์ช่วยให้บริษัทสามารถตัดสินใจอย่างรอบคอบมากขึ้น ช่วยให้แผนกการตลาดสามารถประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญและทีมขายเพื่อเพิ่มยอดขายมากไปกว่านั้นแผนกบริการลูกค้าเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพในการซัพพอร์ตลูกค้า
Collaborative CRM: ช่วยให้แบรนด์สามารถแบ่งปันข้อมูลลูกค้าระหว่างแผนกต่างๆ เช่น ฝ่ายขาย ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายการตลาด ฝ่ายไอที ฝ่ายบริการลูกค้า และอื่นๆ Collaborative CRM ช่วยให้ทุกแผนกในธุรกิจมีเป้าหมายเดียวกันร่วมกัน ซึ่งก็คือการปรับปรุงการบริการลูกค้า เพิ่มความภักดีของลูกค้า และการหาลูกค้าใหม่
ฟังก์ชันหลักของ CRM
ฟังก์ชันหลักของ CRM มีด้วยกันทั้งหมดสามฟังก์ชัน หนึ่งก็คือการจัดการผู้ติดต่อเพื่อใช้จัดเก็บข้อมูลผู้ติดต่อรวมถึงชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ที่อยู่อีเมล และบัญชีโซเชียลมีเดียในฐานข้อมูลที่ค้นหาได้ สองการติดตามการพูดคุยเพื่อใช้ป้อนบันทึกและติดตามประวัติการพูดคุยกับลูกค้าเพื่อบันทึกการสนทนากับลูกค้าเฉพาะราย และสามการจัดการลูกค้าเป้าหมายช่วยให้แบรนด์สามารถจัดการเปลี่ยนผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าให้กลายเป็นลูกค้าจริงได้ มากไปกว่านั้นฟังชั่นของ CRM ยังมีมากมายอีกหลายอย่างเช่น
– การตัดสินใจโดยใช้ AI
– เวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ
– รองรับการ integration กับ third party
– การรายงาน/แดชบอร์ดและการวิเคราะห์
– การพยากรณ์การขาย
– แชทบอท AI สนทนา
– เป็นศูนย์กลางในการเก็บข้อมูล
– การจัดการเอกสาร
– การจัดการไปป์ไลน์การขาย
– CRM มือถือ
– การจัดการใบเสนอราคาและข้อเสนอ
– รองรับ REST API
– การจัดการโซเชียลมีเดีย
CRM ช่วยให้แบรนด์สร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับลูกค้า
CRM เกือบจะทุกแบรนด์นั้นมีฟังชั่นที่สามารถส่งอีเมลแบบอัตโนมัติ(Email Automation) ไปยังลูกค้าตัวอย่างเช่น หลังจากการซื้อครั้งล่าสุดของลูกค้าทางนักการตลาดได้มีการกำหนดจำนวนวันไว้ล่วงหน้าว่าพอครบกำหนด 7 วันหลังจากที่ลูกค้าซื้อสินค้าแล้วเราจะมีการทำ Email Marketing แบบ Upsell ไปหาลูกค้าอีกครั้ง ด้วยฟังชั่นนี้จึงทำให้แบรนด์ยังคงติดต่อกับลูกค้าผ่านอีเมลส่วนบุคคลที่ส่งเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเช่น ข้อเสนอ คูปอง โปรโมชันตามฤดูกาล และสิ่งจูงใจ
และเทมเพลตอีเมลที่ส่งออกไปนั้นสามารถปรับแต่งได้ตามสถานการณ์โดยจะเป็นการส่งแบบอัตโนมัติอีกด้วย เช่น การซื้อ (ขอบคุณสำหรับการสั่งซื้อของคุณ) การสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ (คุณถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้) การละทิ้งตะกร้าสินค้า (เราสังเกตเห็นว่าคุณทิ้งสินค้าหลายรายการในรถเข็นของคุณ) ลูกค้า การโทรบริการ (เราหวังว่าเราจะสามารถแก้ปัญหาของคุณได้) และอื่นๆ
CRM สามารถปรับปรุงการบริการลูกค้า
CRM ช่วยให้เข้าถึงทุกช่องทางการสื่อสารที่ลูกค้าได้มีการพูดคุยไว้กับแบรนด์ได้แบบReal time รวมถึงประวัติการแชท ประวัติการซื้อ และการบริการลูกค้า สิ่งนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าสามารถดึงรายละเอียดของลูกค้าได้ทันทีในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกับลูกค้า
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนจะรู้ได้อย่างชัดเจนว่ากำลังพูดอยู่กับใครตั้งแต่วินาทีที่รับสาย เนื่องจากหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้าจะถูกเชื่อมโยงกับชื่อ ฝ่ายบริการสามารถทักทายลูกค้าด้วยชื่อ และทราบการซื้อล่าสุดของลูกค้า ดังนั้นหากลูกค้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนจะสามารถดึงข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้นได้ทันที CRM ช่วยให้มองเห็นแบบองค์รวม 360 ของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งให้ข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับเกี่ยวกับลูกค้าตั้งแต่การติดต่อครั้งแรกกับแบรนด์ และช่วยให้แบรนด์สามารถติดต่อกับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและสามารถประเมินระดับความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
CRM ช่วยทำให้การสื่อสารกับลูกค้าดีมากยิ่งขึ้น
จากการเก็บรวบรวมข้อมูลและศึกษาข้อมูลประชากรของลูกค้า พฤติกรรมการท่องเว็บออนไลน์ พฤติกรรมการซื้อ และการโต้ตอบบนช่องทาง Social media CRM สามารถช่วยในการแบ่งกลุ่มลูกค้าให้ละเอียดยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถกำหนดวิธีการเข้าถึงลูกค้าแต่ละรายได้ดีขึ้น เมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมที่ผ่านมาของลูกค้ากับแบรนด์ CRM ยังช่วยให้แบรนด์สามารถส่งข้อความส่วนตัวไปยังลูกค้าผ่านช่องทางที่ลูกค้าต้องการได้ไม่ว่าจะเป็นอีเมลโซเชียลมีเดียหรือการให้โทรหา
สุดท้าย
ในปัจจุบันหลายบริษัทกำลังใช้ CRM เพื่อกระตุ้นยอดขาย แต่จริงๆแล้ว CRM ยังสามารถเป็นเครื่องมือสำหรับการปรับปรุงการให้บริการและทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจของลูกค้าได้เช่นกัน CRM สามารถใช้เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นกับลูกค้า ปรับปรุงการบริการลูกค้า อำนวยความสะดวกช่วยให้การตอบสนองที่รวดเร็วขึ้นระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ปรับแต่งการสื่อสารกับลูกค้าให้เป็นแบบส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น และช่วยปรับปรุง Customer journey ในทุกๆ Touchpoints
Get on the path to faster sales!
Watch a guided tour or try free trial now!
มาร่วมทดลอง salesforce CRM #1 กันเถอะ